PASAYA จัดโครงการปลูกต้นไม้ทดแทนด้วยพื้นที่ของโรงงาน 100 ไร่ที่จังหวัดราชบุรี โดยตั้งเป้าหมาย ปลูกต้นไม้ให้ครบภายในปี 2025 และขยายพื้นที่การปลูกต้นไม้ไปยังพื้นที่ชนบทห่างไกล เพื่อดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 300 ตันต่อปี มุ่งสู่การเป็น Net Zero Emission Factory โรงงานที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายในปี 2050
Net Zero Emission คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็น “ ศูนย์ ” จะทำให้เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิดภาวะสมดุลจากทุกฝ่ายผลิตและทุกกิจกรรมของมนุษย์ ที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เข้าใกล้ “ศูนย์” มากที่สุดและเพิ่มการปลูกต้นไม้ทดแทนให้เท่ากับจำนวนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป หากผู้คนบนโลกทำเป้าหมายครั้งนี้ได้สำเร็จ เราจะสามารถควบคุมอุณหภูมิบนพื้นผิวโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม ประมาณ 1.5 องศาเซลเซียส
การที่เราจะเริ่มทำ Net Zero Emission นั้นหมายถึง วัตถุดิบที่ PASAYA ใช้ก็ต้องมาจากโรงงานที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหมือนกันด้วย Zero Emission เราจะลดได้ก็ต่อเมื่อเปลี่ยนซัพพลายเออร์หรือให้ซัพพลายเออร์ หาคาร์บอนเครดิตมาชดเชยให้กับเรา หรือแม้แต่การปลูกป่ามาชดเชยก็สามารถทำได้ ซึ่งพื้นที่ปลูกป่าจำนวน 1 ไร่ จะสามารถชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ไม่เกินจำนวน 3 ตันต่อปี
ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ได้ เพียงแค่เรา ลดและชดเชย ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยคาร์บอนที่ปล่อยออกไป
องค์กรชั้นนำและผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักว่า “ ภาวะโลกร้อน ” และ “Climate Change ” กำลังเป็นหายนภัยที่คุกคามการดำรงอยู่ของชีวิตทุกชีวิตบนโลกนี้ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่ปรับเปลี่ยนเฉียบพลัน ถ้าหากไม่มีการแก้ไขให้เข้าสู่ภาวะสมดุล สิ่งมีชีวิตจะสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นเป็น 70% เทียบจากการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกในปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์อาจทำให้การดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นเรื่องยากขึ้นกว่าเดิม
PASAYA เราตระหนักถึงเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารเคมีออกจากโรงงานของเรามาโดยตลอด เราให้ความสำคัญกับผู้คน สิ่งแวดล้อม และพนักงานของเรา ให้มีความปลอดภัยและยั่งยืน เราได้รับ “ฉลากสีเขียว” การันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อจากเราไปนั้น ช่วยลดมลพิษก๊าซเรือนกระจก จากการผลิตได้ ทุกกระบวนการผลิตของ PASAYA เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงงานของเราตั้งอยู่ที่จังหวัด ราชบุรี ล้อมรอบด้วยชุมชนและป่า เราคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่การเริ่มออกแบบโรงงานและสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้โรงงานของเราสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนโดยที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไม่ปล่อยสารเคมีออกนอกโรงงาน จนได้รับ
“ โรงงานสีเขียว ” ที่บ่งบอกได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ PASAYA มีคุณภาพและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการผลิตที่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และไม่ปล่อยสารเคมีออกจากบริเวณโรงงานของเรา
เราเริ่มทำโครงการพลังงานโซล่าเซลล์ตั้งแต่ปลายปี 2020 ติดตั้งแล้วเสร็จเริ่มใช้งานเดือน ม.ค. ปี 2021
และนำพลังงานสะอาดนี้มาใช้ภายในโรงงาน เปลี่ยนระบบเตาสตรีมจากการเผาถ่านหินเป็นระบบ “Once through” ใช้ก๊าซ LPG ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเท่าตัว ในการให้ความร้อนสำหรับงานย้อมผ้า เริ่มใช้ในเดือน ก.ค. 2022 ที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้ จะทำให้เราลด Carbon Emission ของเราลงได้ราว 2,500 ตัน/ปี จากนี้ไปเราจะค่อยๆ ปรับลดลงอีกทุกปีควบคู่ไปกับการขยายกำลังการผลิต คาดว่าภายใน 2035 หรืออีก
13 ปีข้างหน้า จะบรรลุ zero emission และจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 15 ปีไปให้ถึง Net Zero Emission (Carbon Neutral) ในปี 2050
ปี 2050 กับเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปลูกต้นไม้ทดแทนเพื่อดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (Net Zero Emission) PASAYA เรามองว่าเราสามารถทำได้ เพราะโรงงานของเรา มีการใช้ทรัพยากรณ์น้ำหมุนเวียนอยู่ภายในโรงงาน 100% ด้วยการบำบัดน้ำเสีย จึงไม่มีสารเคมีจากการผลิตออกสู่สิ่งแวดล้อมโดยรอบ โรงงานของเราและชุมชนจึงสามารถอยู่ร่วมกันได้
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Net Zero Emission) เริ่มจากการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาของโรงงานเราและนำพลังงานมาใช้ในการผลิตผ้าและเปลี่ยนระบบย้อมสีผ้าจากการใช้พลังงานความร้อนจาก “ถ่านหิน” เป็น “แก๊ส LPG” ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 25% ให้สอดคล้องกับ Net Zero Emission เราจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศโลก
โรงงานของเราได้รับมาตรฐาน “โรงงานสีเขียว” รับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม ( PASAYA Green Factory ) เราตั้งเป้าหมายแรกสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Net Zero Emission โดยเริ่มตั้งแต่ 2022 จนถึง ปี 2050 และจะทำต่อไปเรื่อยๆ
PASAYA เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน