-Direct GHG emissions 6,417 tonCO2e/year
-Energy Indirect GHG emissions 3,729 tonCO2e/year
-Other Indirect GHG emissions 2,933 tonCO2e/year
ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์(ดำเนินการแล้วในปี ค.ศ.2021) กลางปีค.ศ. 2020 บริษัทได้ตัดสินใจลงทุนในโครงการใช้แผงโซล่าเซลล์ขนาด 2 เมกกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตในเวลากลางวัน แผงโซล่าเซลล์ติดตั้งแล้วเสร็จในปลายปีค.ศ. 2021 และเริ่มใช้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานของเรา ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี ค.ศ.2022
ดำเนินการแล้วในปี ค.ศ. 2022 ในปีเดียวกันกับการทำแผงโซล่าเซลล์ บริษัทได้ตัดสินใจเปลี่ยนเตาผลิตไอน้ำ แบบรวมศูนย์ซึ่งใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง มาเป็นเตาขนาดเล็ก รุ่น “เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ” ที่สามารถติดตั้งภายในโรงงานสามารถตั้งไว้ใกล้กับเครื่องจักร ผลที่ได้คือประหยัดเชื้อเพลิงและปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเดิม 40%
ในพื้นที่ของโรงงานร่วมกับมูลนิธิพิพิธภัณฑ์แม่ภายใน เวลา 3 ปี และจะทำโครงการต่อเนื่องต่อไปในพื้นที่ชนบทให้ครบ 1000 ไร่ก่อนปี 2050 เพื่อให้ได้คาร์บอนเครดิต 3,000 ตันต่อปี
เพื่อนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยลดการใช้แก๊ซ LPG ลงอีกราว 25% ถึง 30%
เช่น อาคารสามารถจำกัดบริเวณการทำความเย็นเฉพาะบริเวณที่ต้องมีคนดูแล หรือสร้างผนังกันความร้อน
เพื่อลดพลังงานในการทำความเย็น
เมื่อเทคโนโลยี่ของแบตเตอรี่มีต้นทุนต่อหน่วยไม่แพงกว่าการใช้ไฟของการไฟฟ้าฯ
ตามความต้องการของตลาด ตามนโยบาย Sustainable Circular Green (SCG)